How a Brain Implant and AI Gave a Woman with Paralysis Her Voice Back
🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
สวัสดีครับข่าววันนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กับการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่สามารถพูดได้ให้กลับมาสื่อสารกับคุณหมอและคนรอบข้างได้อีกครั้งหนึ่ง จากช่อง YouTube ของมหาวิทยาลัยยูซีซานฟรานซิสโก UC San Francisco ( UCSF )
เป็นวิดีโอ Youtube ที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ AI. วิธีทำก็คือ การฝัง Chip เข้าไปในสมอง แล้วก็จะมีช่องโพล่ขึ้นมาบนศรีษะ ที่เอาไว้คอยเสียบสัญญาณไฟ เพื่อนำสัญญานไฟนั้นก็ไปเสียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว แปลงรหัสคลื่นสมอง มาเป็นเสียงพูดผ่านตัว Avatar ที่จอคอมพิวเตอร์ ตาม Link Youtube ด้านล่าง
ผู้ป่วยคนนี้มีอาการที่เรียกว่า Locked-in syndrome ( Locked-in syndrome is a condition in which a person is paralyzed and unable to communicate ) มีอาการอัมพาตที่ไม่สามารถสื่อสาร และขยับตัวได้ แต่ก็ยังรับรู้สภาวะรอบข้างได้ดี ( they are still aware of their surroundings. )
🔮 รายละเอียด Youtube (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
🔮 This video is about a woman named Ann who has been living with locked-in syndrome for 18 years. Locked-in syndrome is a condition in which a person is paralyzed and unable to communicate, but they are still aware of their surroundings. วิดีโอนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงชื่อแอนซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับอาการล็อคอินมาเป็นเวลา 18 ปี โรคล็อคอินคือภาวะที่บุคคลเป็นอัมพาตและไม่สามารถสื่อสารได้ แต่พวกเขายังคงตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของตนเอง
🔮 Ann was able to communicate with her doctors and loved ones using a new brain implant and AI technology. The device was able to decode her brain activity and translate it into speech. This is the first time that someone with locked-in syndrome has been able to communicate using this technology. แอนสามารถสื่อสารกับแพทย์และคนที่คุณรักโดยใช้การปลูกถ่ายสมองและเทคโนโลยี AI ใหม่ อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถถอดรหัสการทำงานของสมองของเธอและแปลเป็นคำพูดได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ที่มีอาการล็อคอินสามารถสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีนี้ได้
🔮 Ann was able to have a conversation with her doctor and ask him questions about her condition. She was also able to talk to her family and friends. Ann said that she was grateful for the opportunity to communicate again and that she felt like she was finally able to be herself again. แอนสามารถพูดคุยกับแพทย์ของเธอและถามคำถามเกี่ยวกับอาการของเธอได้ เธอยังสามารถพูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของเธอได้ด้วย แอนบอกว่าเธอรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสในการสื่อสารอีกครั้ง และเธอรู้สึกเหมือนได้เป็นตัวของตัวเองอีกครั้งในที่สุด
🔮 Link Youtube (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
คำ paralyzed เป็นคำกริยาและคำคุณศัพท์ที่มีความหมายว่า "เป็นอัมพาต" หรือ "ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้" สามารถใช้ได้ในบริบทต่างๆ ดังนี้
ในบริบททางการแพทย์
คำ paralyzed มักใช้เพื่ออธิบายอาการของผู้ป่วยที่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวบางส่วนหรือทั้งหมดของร่างกาย สาเหตุของการเป็นอัมพาตอาจเกิดจากโรคหรือภาวะต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคโปลิโอ อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรืออุบัติเหตุทางกีฬา เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
- The stroke paralyzed her left side. (โรคหลอดเลือดสมองทำให้เธอเป็นอัมพาตครึ่งซีก)
- The accident paralyzed him from the waist down. (อุบัติเหตุทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป)
- She was paralyzed by a rare neurological disorder. (เธอเป็นอัมพาตจากภาวะทางระบบประสาทที่หายาก)
ในบริบททางอารมณ์
คำ paralyzed สามารถใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกของบุคคลที่รู้สึกตกใจ กลัว หรือสิ้นหวังจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ตัวอย่างประโยค
- The news of the war paralyzed the country. (ข่าวสงครามทำให้ประเทศตกอยู่ในความหวาดกลัว)
- The sight of the accident paralyzed him with fear. (ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุทำให้เขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก)
- She was paralyzed by grief after the death of her husband. (เธอเศร้าโศกเสียใจจนทำอะไรไม่ถูกหลังจากสามีเสียชีวิต)
ในบริบทอื่นๆ
คำ paralyzed สามารถใช้ในบริบทอื่นๆ เพื่ออธิบายสิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติหรือหยุดชะงักลง
ตัวอย่างประโยค
- The strike paralyzed the city's transportation system. (การประท้วงทำให้ระบบขนส่งสาธารณะของเมืองหยุดชะงัก)
- The power outage paralyzed the factory. (ไฟดับทำให้โรงงานหยุดทำงาน)
- The computer virus paralyzed the company's network. (ไวรัสคอมพิวเตอร์ทำให้เครือข่ายของบริษัทหยุดทำงาน)
🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
คำ communicate เป็นคำกริยาที่มีความหมายว่า "สื่อสาร" หรือ "สื่อความหมาย" สามารถใช้ได้ในบริบทต่างๆ ดังนี้
ในบริบททั่วไป
คำ communicate มักใช้เพื่ออธิบายการกระทำของบุคคลที่ต้องการส่งข้อมูลหรือความคิดไปยังบุคคลอื่น สามารถทำได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การพูด การเขียน การวาดรูป การเต้นรำ การแสดงละคร เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
- The teacher communicated the lesson to the students. (ครูสอนบทเรียนให้กับนักเรียน)
- The company communicated its new policy to its employees. (บริษัทแจ้งนโยบายใหม่ให้กับพนักงาน)
- The artist communicated her emotions through her paintings. (ศิลปินสื่ออารมณ์ของเธอผ่านภาพวาด)
ในบริบททางธุรกิจ
คำ communicate มักใช้เพื่ออธิบายการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น การสื่อสารระหว่างพนักงานกับลูกค้า การสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน การสื่อสารระหว่างบริษัทกับบริษัทอื่นๆ เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
- The company communicated its new product launch to its customers. (บริษัทแจ้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับลูกค้า)
- The manager communicated the company's goals to the employees. (ผู้จัดการแจ้งเป้าหมายของบริษัทให้กับพนักงาน)
- The two companies communicated to negotiate a new contract. (ทั้งสองบริษัทสื่อสารเพื่อเจรจาสัญญาใหม่)
ในบริบททางวิทยาศาสตร์
คำ communicate มักใช้เพื่ออธิบายการสื่อสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เช่น การสื่อสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลอง การสื่อสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับประชาชน เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
- The scientists communicated their findings to the public. (นักวิทยาศาสตร์เผยแพร่ผลการวิจัยของพวกเขาต่อสาธารณชน)
- The doctor communicated the patient's diagnosis to the family. (แพทย์แจ้งการวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยให้กับครอบครัว)
- The engineers communicated their design to the manufacturer. (วิศวกรแจ้งการออกแบบของพวกเขาให้กับผู้ผลิต)
ดังนั้น การใช้คำ communicate ให้เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องพิจารณาบริบทที่คำนั้นถูกใช้อยู่ด้วย หากใช้คำนี้อย่างไม่เหมาะสม อาจทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไปได้
ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์อื่นๆ ที่สามารถใช้แทนคำ communicate ได้ เช่น
- exchange information
- share ideas
- transmit messages
- convey thoughts
- express feelings
🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวข้อง
- locked-in syndrome (โรคล็อคอิน) - ภาวะที่บุคคลเป็นอัมพาตและไม่สามารถสื่อสารได้ แต่พวกเขายังคงตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของตนเอง
- brain implant (การปลูกถ่ายสมอง) - การผ่าตัดใส่อุปกรณ์เข้าไปในสมอง
- AI technology (เทคโนโลยี AI) - เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
- decode (ถอดรหัส) - แปลงข้อความหรือรหัสจากรูปแบบหนึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
- translate (แปล) - เปลี่ยนข้อความจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง
- conversation (การสนทนา) - การพูดคุยระหว่างบุคคลสองคนหรือมากกว่านั้น
- grateful (รู้สึกขอบคุณ) - รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในบุญคุณ
คำเหมือนและคำตรงข้าม
คำศัพท์เพิ่มเติม
- spinal cord injury (การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง) - ภาวะที่ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวบางส่วนหรือทั้งหมดของร่างกาย
- stroke (โรคหลอดเลือดสมอง) - ภาวะที่เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังสมองได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวบางส่วนหรือทั้งหมดของร่างกาย
- brain damage (ความเสียหายของสมอง) - ภาวะที่สมองได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้การทำงานของสมองผิดปกติ
1. What is locked-in syndrome?
- a) A condition where a person is paralyzed and unable to communicate
- b) A condition where a person's brain is locked and unable to think
- c) A condition where a person loses their memory and cannot remember anything
- d) A condition where a person's body is locked and unable to move
2. How was Ann able to communicate with her doctors and loved ones?
- a) Through a brain implant and AI technology
- b) Through sign language
- c) Through a special device that translates brain activity into speech
- d) Through telepathy
3. What is significant about Ann's ability to communicate using the new technology?
- a) It is the first time someone with locked-in syndrome has been able to communicate
- b) It is the first time AI technology has been used in medical treatments
- c) It is the first time a brain implant has been used for communication purposes
- d) It is the first time someone with locked-in syndrome has been able to communicate without assistance
4. Who could Ann have conversations with using the new technology?
- a) Her doctors and loved ones
- b) Only her doctors
- c) Only her loved ones
- d) No one, she could only communicate through writing
5. How did Ann feel about being able to communicate again?
- a) Grateful and like she was finally able to be herself again
- b) Annoyed and overwhelmed by all the questions
- c) Indifferent, it didn't really make a difference to her
- d) Frustrated that she couldn't communicate more effectively
🔮 เฉลย (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
Correct Answers:
- a
- a
- a
- a
- a