"หมูเด้ง" will instead perform the role of predicting the election outcome, which has captured the public's interest and added a unique twist to the election discourse.
คำว่า "discourse" ในที่นี้หมายถึงการสนทนา การอภิปราย หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้คือการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ที่มี "หมูเด้ง" เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพูดคุยและสร้างความสนใจในสังคม
ตัวอย่างการใช้คำว่า "discourse" ในบริบทต่างๆ:
1. Academic Discourse: "The academic discourse surrounding climate change has evolved significantly over the past decade."
(การอภิปรายทางวิชาการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้พัฒนาไปอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา)
2. Political Discourse: "Political discourse in the country has become increasingly polarized, making it difficult to find common ground."
(การอภิปรายทางการเมืองในประเทศได้กลายเป็นเรื่องที่มีความแตกแยกมากขึ้น ทำให้ยากที่จะหาจุดร่วม)
3. Public Discourse: "Public discourse on social media often reflects the diverse opinions of the community."
(การอภิปรายสาธารณะในโซเชียลมีเดียมักสะท้อนความคิดเห็นที่หลากหลายของชุมชน)
การใช้คำว่า "discourse" ในแต่ละตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงการสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบริบทที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลายๆ สถานการณ์ได้
คำที่คล้ายกับ "discourse" ในบริบทเดียวกัน ได้แก่ "dialogue," "discussion," "conversation," และ "debate." ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษพร้อมแปลภาษาไทย:
1. Dialogue
- The dialogue between the two leaders was crucial for resolving the conflict.
- การสนทนาระหว่างผู้นำทั้งสองมีความสำคัญต่อการแก้ไขความขัดแย้ง
2. Discussion
- The discussion on climate change policies is ongoing among the nations.
- การอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังดำเนินอยู่ระหว่างประเทศต่างๆ
3. Conversation
- Their conversation about the upcoming election revealed differing opinions.
- การสนทนาของพวกเขาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมาถึงเผยให้เห็นความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
4. Debate
- The debate on healthcare reform attracted a large audience.
- การโต้วาทีเกี่ยวกับการปฏิรูปการดูแลสุขภาพดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก
คำเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือข้อมูลในบริบททางสังคมและการเมือง ซึ่งเป็นลักษณะของ "discourse" เช่นกัน
🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click
คำว่า "discourse" มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินคำว่า "discursus" ซึ่งหมายถึง "การวิ่งไปมา" หรือ "การพูดคุย" โดยคำนี้ประกอบด้วยคำว่า "dis-" ที่หมายถึง "ไปในทิศทางที่แตกต่าง" และ "currere" ที่หมายถึง "วิ่ง" ดังนั้น "discourse" จึงมีความหมายเกี่ยวกับการสื่อสารหรือการพูดคุยที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือข้อมูลระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน
ตัวอย่างคำที่มาจากรากศัพท์เดียวกัน ได้แก่:
1. Discursive - ซึ่งหมายถึงการพูดหรือเขียนที่มีการกระจายความคิดหรือข้อมูลไปในหลายทิศทาง ไม่ได้มุ่งเน้นอยู่ที่ประเด็นเดียว
2. Discursion - หมายถึงการพูดคุยหรือการอภิปรายที่มีการเปลี่ยนหัวข้อหรือประเด็นไปมา
คำเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการสื่อสาร การพูดคุย และการแลกเปลี่ยนความคิดที่มีรากฐานมาจากคำว่า "discourse" นั่นเอง